สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมร่วง 27.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการดิ่งลงรุนแรงที่สุดในปีนี้ หลังจากที่ปรับตัวลง 17.8% ในเดือนส.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังคงอ่อนแอและรัฐบาลจีนจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ข้อมูลของ NBS ซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) ยังระบุด้วยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลง 3.5% สวนทางกับในช่วง 8 เดือนแรกที่ตัวเลขกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5%
เหวย หนิง นักสถิติของ NBS กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้กำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนร่วงลงอย่างหนักในเดือนก.ย.นั้นมาจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอลง และราคาผู้บริโภคที่ทรุดตัวลงอย่างมาก
อย่างไรก็ดี เหวย หนิงคาดการณ์ว่า การที่รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อไม่นานมานี้จะเป็นปัจจัยหนุนสภาพแวดล้อมด้านการผลิตและการดำเนินงานของบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตให้ปรับตัวดีขึ้น และจะช่วยให้กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนฟื้นตัวขึ้นด้วย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนได้จากการสำรวจบริษัทอุตสาหกรรมที่มีรายได้จากธุรกิจหลักต่อปีอย่างน้อย 20 ล้านหยวน (2.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ทั้งนี้ กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนถือเป็นดัชนีชี้วัดสถานะทางการเงินของอุตสาหกรรมโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภคทั่วประเทศจีน โดยตัวเลขดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของบริษัทเหล่านี้ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า