สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ (30 ต.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่งในไตรมาส 3/2567 แต่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดสินค้าที่มีความผันผวน ยังคงอยู่ในระดับสูง และทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.2% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% และเมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 3.8% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าดัชนี CPI รายปีปรับตัวลงสู่กรอบเป้าหมายของ RBA ที่ระดับ 2% - 3% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดัชนี CPI ปรับตัวลงนั้น มาจากราคาไฟฟ้าที่ลดลง 17.3% อันเนื่องมาจากนโยบายอุดหนุนของรัฐบาล ขณะที่ราคาเชื้อเพลิงปรับตัวลง 6.2% ในไตรมาส 3
อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.8% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ และเมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 3.5% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์เช่นกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักลงทุนปรับลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่า RBA จะลดอัตราดอกเบี้ย โดยปรับลดน้ำหนักลงเหลือ 26% ในการประชุมเดือนธ.ค.ปีนี้ และลงเหลือ 42% ในเดือนก.พ.ปีหน้า และคาดว่าเดือนเม.ย.ปีหน้าเป็นช่วงเวลาที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่ RBA จะเริ่มต้นวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
มิเชล บูลล็อก ผู้ว่าการ RBA กล่าวในรายงานประจำปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เธอคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีก 1 หรือ 2 ปีก่อนที่ดัชนี CPI จะปรับตัวลงสู่กรอบเป้าหมายของ RBA ที่ระดับ 2% - 3% อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ RBA จะเปิดเผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจรอบใหม่ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันอังคารที่ 5 พ.ย.