ข้อมูลเบื้องต้นที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียเผยแพร่ในวันนี้ (31 ต.ค.) แสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของซาอุดีอาระเบียขยายตัว 2.8% ในไตรมาส 3/2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการเติบโตของภาคธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติซาอุฯ เผยให้เห็นการเติบโตในหลายภาคส่วน โดยภาคธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันเติบโต 4.2% กิจกรรมของภาครัฐขยายตัว 3.1% ส่วนภาคน้ำมันมีการเติบโตเล็กน้อยที่ 0.3%
ก่อนหน้านี้ GDP ของซาอุฯ หดตัวลงในไตรมาส 2/2567 โดยมีสาเหตุหลักมาจากกิจกรรมด้านน้ำมันที่ลดลงเกือบ 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เมื่อเทียบรายไตรมาส สำนักงานสถิติฯ รายงานว่า GDP ที่แท้จริงโต 0.8%
การเติบโตทางเศรษฐกิจของซาอุฯ ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันอันดับหนึ่งของโลก คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำตลอดปีนี้ เนื่องจากทั้งราคาน้ำมันและปริมาณการผลิตน้ำมันลดลง ส่งผลให้รายได้ของรัฐบาลได้รับผลกระทบ
โพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่า GDP ซาอุฯ จะเติบโตที่ 1.3% ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ล่าสุดของ IMF ที่ 1.5% เล็กน้อย และถือเป็นหนึ่งในอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศสมาชิกในกลุ่มอ่าวอาหรับ (GCC)
ปริมาณการผลิตน้ำมันคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจซาอุฯ โดยรวมฟื้นตัวดีขึ้น โดยยังมีภาคธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันคอยเป็นตัวสนับสนุนการเติบโตด้วย
แม้ว่าการคลังของซาอุฯ ยังต้องพึ่งพารายได้จากน้ำมันเป็นหลัก แต่ประเทศกำลังเร่งผลักดันการเติบโตในภาคธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน พร้อมทั้งพัฒนาแหล่งรายได้ใหม่ ๆ ตามแผนยุทธศาสตร์ Vision 2030
ทั้งนี้ GDP จากภาคส่วนที่ไม่ใช่น้ำมันมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งของ GDP ทั้งประเทศ แม้ว่าในปีนี้การเติบโตของภาคส่วนที่ไม่ใช่น้ำมันจะชะลอตัวลงบ้าง แต่ก็ยังคงได้รับการประเมินว่าจะเติบโตที่ระดับ 4% แม้จะต่ำกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาที่ทำได้เกือบ 6% ก็ตาม