ผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันนี้ (4 พ.ย.) ระบุว่า สถานการณ์ภาคการผลิตของเยอรมนีในเดือนต.ค.เริ่มดีขึ้น เพราะแม้ตัวเลขด้านการผลิต คำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงานจะยังลดลง แต่ลดลงน้อยกว่าเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนที่มีการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบปี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของเยอรมนีจากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ที่รวบรวมโดยเอสแอนด์พี โกลบอล ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 40.6 ในเดือนก.ย. มาอยู่ที่ 43.0 ในเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 มาก
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ดัชนี PMI ขั้นสุดท้ายนี้สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ 42.6 เล็กน้อย
โยนาส เฟลต์ฮูเซน นักเศรษฐศาสตร์ระดับต้นจากธนาคาร HCOB กล่าวว่า "เราเริ่มเห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจอาจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ... แต่เราต้องไม่ด่วนสรุป เพราะตัวเลขที่ดีขึ้นนี้เพิ่งเกิดขึ้นแค่เดือนเดียวเท่านั้น"
ผลสำรวจระบุว่า การผลิตในเดือนต.ค. ยังคงลดลงอย่างมาก แม้จะไม่ได้แย่เท่ากับเดือนก.ย. แต่ก็ยังลดลงมากกว่าค่าเฉลี่ยของช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจกำลังหดตัว
เฟลด์ฮูเซนชี้ว่า แม้จำนวนงานใหม่จะยังลดลงอยู่ แต่ลดลงน้อยกว่าเดิมมาก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์จะเริ่มมีเสถียรภาพในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม เฟลด์ฮูเซนกังวลอย่างมากกับสถานการณ์การเลิกจ้างงาน เพราะอัตราการลดจำนวนพนักงานชะลอตัวลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.ที่มีการปลดพนักงานมากที่สุดในรอบกว่า 4 ปี
"ปัญหาการปลดพนักงานกำลังน่าห่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ที่โฟล์คสวาเกนที่กำลังถกเรื่องปิดโรงงาน 3 แห่งและเลย์ออฟครั้งใหญ่เท่านั้น แต่กำลังเกิดขึ้นทั่วตลาดแรงงานด้วย" เฟลด์ฮูเซนกล่าว