ผลสำรวจทางธุรกิจที่เปิดเผยในวันนี้ (6 พ.ย.) ระบุว่า ภาคบริการซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของอินเดียฟื้นตัวขึ้นในเดือนต.ค. หลังร่วงลงต่ำสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อเดือนก.ย. โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ผลสำรวจยังชี้ว่าการจ้างงานในภาคบริการเพิ่มขึ้นอย่างมากอีกด้วย
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดีย ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) และเผยแพร่โดยเอชเอสบีซี (HSBC) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 57.7 ในเดือนก.ย. มาอยู่ที่ 58.5 ในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ 57.9 และอยู่เหนือระดับ 50 มาแล้ว 39 เดือนติดต่อกัน
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดีย ปรับตัวดีขึ้นจาก 58.3 ในเดือนก.ย. มาอยู่ที่ 59.1 ในเดือนต.ค.
ปราณจุล ภัณฑารี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำอินเดียของ HSBC ระบุว่า "ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ภาคบริการของอินเดียเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกด้าน ทั้งผลผลิต ความต้องการจากผู้บริโภค และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น"
นอกจากนี้ ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศส่งผลให้ธุรกิจใหม่ ๆ เติบโตเร็วขึ้น และการส่งออกไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ก็ขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในแอฟริกา เอเชีย ทวีปอเมริกา ตะวันออกกลาง และสหราชอาณาจักร
สถานการณ์นี้ส่งผลให้บริษัทในภาคบริการเร่งจ้างพนักงานเพิ่ม โดยมีอัตราการจ้างงานสูงที่สุดในรอบ 26 เดือน ขณะที่ภาพรวมธุรกิจในปีหน้ายังคงสดใส เนื่องจากตัวเลขคาดการณ์ที่น่าพอใจ แม้ว่าดัชนีในด้านนี้จะลดลงเล็กน้อยจากเดือนก.ย.ก็ตาม