สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) รายงานในวันนี้ (6 พ.ย.) ว่า เวียดนามมียอดเกินดุลการค้าในเดือนต.ค.ที่ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงจากเมื่อเดือนก่อนหน้า จากการนำเข้าที่ขยายตัวเร็วขึ้นกว่าการส่งออก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เวียดนาม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พึ่งพาการส่งออกอย่างหนักเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยการส่งออกไปยังต่างประเทศปรับตัวขึ้น 10.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่การนำเข้าปรับตัวขึ้น 13.6%
GSO ระบุว่า ในช่วงเดือนม.ค.-ต.ค. ยอดส่งออกปรับตัวขึ้น 14.9% จากเมื่อปีก่อน สู่ระดับ 3.35586 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวขึ้น 16.8% สู่ระดับ 3.1228 แสนล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 7.0% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากที่เติบโต 10.8% ในเดือนก.ย.
ฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า รัฐบาลต้องการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจให้สูงกว่าอัตราที่คาดไว้ที่ 6.8-7.0% ในปีนี้ โดยการเติบโตในไตรมาสเดือนก.ย. นั้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 7.4% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.89% ในเดือนต.ค.จากปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าเพดานที่รัฐบาลกำหนดไว้สำหรับปี 2567