สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ รายงานในวันนี้ (7 พ.ย.) ว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากผลกระทบของการส่งออกที่ชะลอตัวลงและพายุที่สร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร โดยการขยายตัวที่อ่อนแอของเศรษฐกิจอาจเป็นแรงผลักดันให้ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฟิลิปปินส์ขยายตัวเพียง 5.2% ในไตรมาส 3/2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 5.7% และชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 6.4% โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของฟิลิปปินส์ถือเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว
ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ GDP ขยายตัว 5.8% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่คณะบริหารของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ กำหนดไว้ว่าจะผลักดันให้ GDP ขยายตัวอย่างน้อย 6% ในปี 2567
อาร์เซนิโอ บาลิซาแคน รัฐมนตรีฝ่ายวางแผนเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เศรษฐกิจจะต้องขยายตัวอย่างน้อย 6.5% ในไตรมาสปัจจุบันจึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ได้ พร้อมกับคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อกระตุ้นการลงทุน เช่นการลงทุนในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง