กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นลดลงในเดือนก.ย.เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแผนการของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง 1.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง 2.1% และเมื่อเทียบเป็นรายเดือนนั้น การใช้จ่ายลดลง 1.3% เทียบกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 0.7%
สำหรับครัวเรือนที่มีสมาชิก 2 คนขึ้นไปใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 287,963 เยน (1,880 ดอลลาร์)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเป็นดัชนีชี้วัดสำคัญของการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชนญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อีกทั้งแนวโน้มการบริโภคและค่าแรงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ BOJ กำลังจับตามอง เพื่อวัดความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่น และตัดสินใจว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยข้อมูล GDP เบื้องต้นของเดือนก.ค.-ก.ย.ในวันศุกร์หน้า (15 พ.ย.) โดยผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า GDP ญี่ปุ่นมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมากจากการบริโภคและการใช้จ่ายด้านทุนที่ซบเซา