อัตราการว่างงานในสหราชอาณาจักร (UK) ปรับตัวขึ้นแตะ 4.3% ในเดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ด้านค่าจ้างชะลอตัวน้อยกว่าที่คาด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ต้องระมัดระวังในการปรับอัตราดอกเบี้ย
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) รายงานในวันนี้ (12 พ.ย.) ว่า อัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้นจาก 4% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้อาจคลาดเคลื่อนเนื่องจากพบปัญหาในการเก็บข้อมูลแบบสำรวจ
ข้อมูลระบุว่า จำนวนคนที่ไม่มีงานทำนและไม่ได้มองหางานลดลง 162,000 คน สู่ระดับ 9.25 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วง 3 เดือนจนถึงเดือนต.ค. 2566 ผลจากการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง และจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 50,000 คน
จำนวนคนที่อยู่นอกระบบแรงงานลดลง โดยมีสาเหตุหลักมาจากนักศึกษามีจำนวนน้อยลงและมีคนอยู่บ้านเพื่อดูแลครอบครัวน้อยลง ส่วนผู้ที่ไม่สามารถทำงานได้เพราะปัญหาสุขภาพเรื้อรังมีจำนวนลดลงเพียง 20,000 คน ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลกำลังหาทางแก้ไข อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ป่วยเรื้อรังที่ไม่สามารถทำงานได้ถึง 2.78 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนโควิด-19 ถึง 670,000 คน
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก ONS เผยว่า รายได้เฉลี่ยไม่รวมโบนัสเพิ่มขึ้น 4.8% ในช่วง 3 เดือนถึงก.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งลดลงจาก 4.9% ก่อนหน้านี้ โดยถึงแม้จะเป็นตัวเลขต่ำสุดนับจากช่วงกลางปี 2565 แต่ยังสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 4.7%
การเติบโตของค่าจ้างปกติในภาคเอกชน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ BOE จับตา ยังคงอยู่ที่ 4.8% ตามที่ BOE คาดการณ์ไว้ แต่เจ้าหน้าที่มองว่าตัวเลขดังกล่าวยังสูงเกินกว่าจะควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ที่กรอบเป้าหมาย 2%
"ข้อมูลไม่ได้แสดงว่าธนาคารกลางต้องกังวลเกี่ยวกับการผ่อนคลายในตลาดแรงงานและการชะลอตัวของค่าจ้างพื้นฐานที่กำลังจะยุติลง แนวโน้มการจ่ายค่าจ้างปกติในภาคเอกชนในปีที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป" พอล เดลส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ UK ของแคปิตอล อีโคโนมิกส์ กล่าว