ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ INDEC ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (12 พ.ย.) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของอาร์เจนตินาลดลงมาอยู่ที่ 193% ซึ่งต่ำกว่า 200% เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี โดยชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์จากนโยบายรัดเข็มขัดของประธานาธิบดีฆาบิเอร์ มิเลย์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเงินเฟ้อซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดงบประมาณภาครัฐลงอย่างรุนแรง กลับส่งผลกระทบต่อการบริโภคในเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศตกอยู่ในภาวะยากจน
ข้อมูลจาก INDEC ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อรายเดือนชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 2.7% ในเดือนต.ค. จาก 3.5% ในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2564 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อรายปีลดลงต่ำกว่า 200% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
ในเดือนต.ค. ค่าเช่าบ้านรวมถึงค่าน้ำค่าไฟเพิ่มขึ้น 5.4% ส่วนค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นแค่ 1.2% จากเดือนก.ย. แม้ตัวเลขจะดูดีขึ้น แต่ชาวอาร์เจนตินาก็ยังยากลำบาก เนื่องจากต้องประหยัดมาก ๆ เพื่อให้มีเงินพอใช้ไปได้ตลอดเดือน
ทั้งนี้ รัฐบาลตัดงบช่วยเหลือค่าบริการสาธารณะต่าง ๆ พร้อมกับปลดคนทำงานราชการออกมากขึ้น ราคาสินค้าแพงขึ้นเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกอย่างมาก ทำให้เงินที่ประชาชนมีอยู่ซื้อของได้น้อยลง
ด้านข้อมูลของกลุ่มอุตสาหกรรม Ciccra ระบุว่า ชาวอาร์เจนตินาซื้อเนื้อวัวน้อยลง ทั้งที่เมื่อก่อนประเทศนี้กินเนื้อวัวกันมาก เพราะปธน.มิเลย์ยกเลิกกฎควบคุมราคาเนื้อของรัฐบาลชุดก่อน ทำให้ช่วงครึ่งปีแรก มีจำนวนคนกินเนื้อวัวน้อยที่สุดในรอบ 13 ปี