สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (21 พ.ย.) บ่งชี้ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในยุโรปทรงตัวในเดือนต.ค. หลังจากลดลง 2 เดือนติดต่อกัน ในขณะที่การเปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) และรถยนต์ไฮบริด (HEV) มีความคืบหน้าในเดือนต.ค.
ยอดขายรวมในสเปนและเยอรมนีเพิ่มขึ้น 7.2% และ 6% ตามลำดับ ซึ่งได้ช่วยชดเชยยอดขายที่ลดลงในฝรั่งเศส, อิตาลี และอังกฤษ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้ผลิตยานยนต์ในยุโรปกำลังเผชิญกับอุปสงค์ที่ลดลง, ต้นทุนการผลิตที่ระดับสูง และความท้าทายในการเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ขณะเดียวกันก็เผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากจีน
ทั้งนี้ จำนวนรถยนต์ใหม่ที่มีการจดทะเบียนในเดือนต.ค.ในสหภาพยุโรป (EU), อังกฤษ และสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ 1.04 ล้านคัน
ส่วนยอดขาย BEV เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 6.9% ในเดือนต.ค. ขณะที่ยอดขาย HEV เพิ่มขึ้น 15.8%
ยอดจดทะเบียนรถยนต์โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) ใน EU, อังกฤษและ EFTA เพิ่มขึ้น 12.6% ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ของสเตลแลนติส (Stellantis) ลดลง 16.7% และของเรโนลต์ (Renault) ลดลง 0.4%
ส่วนยอดขายรถ EV ของเทสลา (Tesla) ลดลง 23.1% และยอดขายของเอสเอไอซี มอเตอร์ (SAIC Motor) ของจีนก็ลดลง 10% เช่นกัน