ราคาทองแดงและโลหะพื้นฐานประเภทอื่น ๆ ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ (26 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศแผนขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาทองแดงในตลาดลอนดอน (London Metal Exchange) ลดลง 0.6% สู่ระดับ 8,993.5 ดอลลาร์ต่อตัน เมื่อเวลา 10.40 น. ตามเวลาสิงคโปร์ในวันนี้ ขณะที่ราคาอะลูมิเนียมร่วงลง 0.9% และราคานิกเกลลดล 0.4% ทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล (Truth Social) ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% เมื่อเขาเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันแรก และจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% โดยระบุถึงเหตุผลเรื่องการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและการค้ายาเสพติด
"ในวันที่ 20 มกราคม 2568 ผมจะลงนามในเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งบริหารฉบับแรก ๆ ของผม เพื่อเก็บภาษี 25% ของสินค้าทั้งหมดจากเม็กซิโกและแคนาดาที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ" ทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล (Truth Social) ในวันจันทร์ (25 พ.ย.)
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของทรัมป์ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.7% และได้ฉุดตลาดหุ้นในเอเชียร่วงลงในช่วงเช้าวันนี้
ที่ผ่านมานั้น ราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลกเผชิญกับแรงกดดันนับตั้งแต่ทรัมป์คว้าชัยในศึกเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ซึ่งทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และส่งผลให้ราคาโลหะต่าง ๆ ซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักทางการค้า และแนวโน้มอุปสงค์ที่ซบเซาลงจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าโลหะรายใหญ่ของโลก ยังส่งผลกระทบต่อราคาโลหะด้วย