กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ (1 ธ.ค.) ว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกันในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่ง
ข้อมูลของกระทรวงระบุว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 5.63 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนยอดนำเข้าลดลง 2.4% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 5.07 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีใต้เกินดุลการค้า 5.61 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเกินดุลการค้า 18 เดือนติดต่อกัน
ยอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น 30.8% แตะที่ 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นสถิติใหม่สำหรับเดือนพ.ย. และทำนิวไฮรายเดือนเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
ในทางกลับกัน ยอดส่งออกรถยนต์ร่วงลง 13.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 5.6 พันล้านดอลลาร์ โดยเป็นผลมาจากการหยุดชะงักของสายการผลิต หลังเกิดการหยุดงานประท้วงของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในเดือนพ.ย.
ด้านยอดส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีลดลง 18.7% และ 5.6% ตามลำดับ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบลดลง
สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า เมื่อจำแนกตามตลาดส่งออกพบว่า ยอดส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด ลดลง 0.6% สู่ระดับ 1.128 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอส่งผลให้ความต้องการอุปกรณ์เคลื่อนที่ซบเซา
ยอดส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาลดลง 5.1% แตะที่ 1.039 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดส่งออกรถยนต์และเครื่องจักรปรับตัวลง แม้ว่ายอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นเนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์คอมพิวติ้ง
ส่วนยอดส่งออกไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขยับขึ้น 0.4% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกชิป และยอดส่งออกไปยังสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 0.9% โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินค้าชีวสุขภาพและเรือที่เพิ่มสูงขึ้น