ผลสำรวจที่เปิดเผยในวันนี้ (2 ธ.ค.) แสดงให้เห็นว่า ภาคการผลิตของอินเดียชะลอตัวลงในเดือนพ.ย. เนื่องจากแรงกดดันด้านราคา แต่โดยรวมแล้วยังถือว่าภาคการผลิตขยายตัวแข็งแกร่ง
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของอินเดียจาก HSBC ซึ่งรวบรวมโดย S&P Global ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 56.5 ในเดือนพ.ย. จาก 57.5 ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 57.3
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่ในระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งดัชนี PMI ภาคการผลิตของอินเดียเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 มาเกือบสามปีครึ่งแล้ว
ดัชนีย่อยด้านผลผลิตและด้านคำสั่งซื้อใหม่ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดและเกือบต่ำสุดของปีนี้ตามลำดับ แม้การขยายตัวจะช้าลงจากการแข่งขันและแรงกดดันเงินเฟ้อ แต่ด้วยอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง การฟื้นตัวจึงยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
สินค้าผลิตในอินเดียได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากต่างประเทศ โดยอุปสงค์จากต่างชาติขยายตัวเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.
"อุปสงค์ระหว่างประเทศแข็งแกร่งในวงกว้าง สะท้อนจากยอดสั่งซื้อส่งออกใหม่ที่พุ่งสูงสุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งช่วยหนุนให้ภาคการผลิตอินเดียเติบโตอย่างต่อเนื่อง" ปราณจุล ภัณฑารี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำอินเดียของ HSBC กล่าว
อุปสงค์ที่อยู่ในระดับสูงประกอบกับการขยายกำลังการผลิตส่งผลให้แนวโน้มธุรกิจในปีหน้าสดใส ดันดัชนีย่อยทะยานแตะจุดสูงสุดในรอบ 6 เดือน
ภาวะเงินเฟ้อทวีความรุนแรง ทั้งต้นทุนและราคาขายปรับตัวสูงขึ้น โดยต้นทุนพุ่งแรงที่สุดนับจากเดือนก.ค. ขณะที่ราคาขายทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปี
"ต้นทุนวัตถุดิบสินค้าขั้นกลางหลายรายการ ทั้งสารเคมี ฝ้าย หนัง และยาง ต่างปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย. ส่วนราคาสินค้าก็พุ่งตามไปด้วย ... เพราะผู้ผลิตต้องผลักภาระต้นทุนทั้งวัตถุดิบ ค่าแรง และค่าขนส่งไปยังผู้บริโภค" ภัณฑารีกล่าวเสริม