ข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีการเปิดเผยในวันนี้ (6 ธ.ค.) แสดงให้เห็นว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนในประเทศกระเตื้องขึ้นในเดือนต.ค. ขณะที่ค่าจ้างเติบโตรวดเร็วสุดในรอบ 32 ปี ซึ่งเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเดือนต.ค. ลดลง 1.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 2.6% ขณะที่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า การใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 2.9% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4%
นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า แนวโน้มการใช้จ่ายที่ยังซบเซาโดยรวมนั้นเป็นผลมาจากราคาสินค้าและบริการที่สูงขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศที่อบอุ่นผิดปกติทำให้ผู้บริโภคงดเว้นจากการซื้อเสื้อผ้าตามฤดูกาล
ขณะเดียวกันข้อมูลค่าแรงที่เผยแพร่ในวันนี้เช่นกันแสดงให้เห็นว่า ค่าจ้างพื้นฐานของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 32 ปีในเดือนต.ค. ซึ่งช่วยสนับสนุนค่าแรงที่แท้จริงให้ฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ลดลงมาสองเดือน
ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งอย่างเร็วที่สุดในการประชุมนโยบายประจำเดือนนี้ ซึ่งข้อมูลล่าสุดที่เปิดเผยในวันนี้น่าจะช่วยสนับสนุนกระแสคาดการณ์ดังกล่าว
โดยก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขการเติบโตของค่าจ้างนั้น นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเริ่มแสดงความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่แสดงสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จากการสำรวจความคิดเห็นในช่วงเดือนที่แล้ว นักเศรษฐศาสตร์เกินครึ่งมาเล็กน้อยคาดการณ์ว่า BOJ จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 19 ธ.ค. นี้