โยชิฮิโกะ โนดะ หัวหน้าพรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตยญี่ปุ่น ซึ่งเป็นฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้ออกมาเรียกร้องให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่สวนทางกับธนาคารกลางของประเทศอื่น ๆ ซึ่งนโยบายดังกล่าวของ BOJ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง
โนดะให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันนี้ (9 ธ.ค.) ญี่ปุ่นจำเป็นต้องให้ความสนใจมากขึ้นกับบริหารจัดการด้านการคลัง ด้วยการยุติการใช้งบประมาณจำนวนมากในช่วงวิกฤต และหาแนวทางในการเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษี เช่นการปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้จากการขายทรัพย์สิน
การแสดงความเห็นดังกล่าวของโนดะเน้นย้ำถึงความคาดหวังของพรรคฝ่ายค้านที่ตั้งใจจะเรียกคะแนนเสียงจากประชาชนและจะใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจของประชาชนเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งเกิดจากต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้นเพราะเงินเยนอ่อนค่าลง นอกจากนี้ พรรคของโนดะยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างความแตกต่างจากพรรครัฐบาลที่มุ่งเน้นไปที่การหนุนเศรษฐกิจด้วยแผนการใช้จ่ายจำนวนมาก
นอกจากนี้ โนดะ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในช่วงปี 2554-2555 ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ฮารุฮิโกะ คุโรดะ อดีตผู้ว่าการ BOJ เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยาวนานถึง 10 ปี ซึ่งเริ่มขึ้นในปี 2556 ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่าอย่างมาก โนดะกล่าวว่า แม้ว่า BOJ จะยกเลิกการกระตุ้นเศรษฐกิจของคุโรดะเกือบทั้งหมดในเดือนมี.ค. แต่ BOJ ก็ยังไม่ละทิ้งมาตรการดังกล่าวโดยสิ้นเชิง และยังคงเดินหน้าใช้มาตรการดังกล่าวต่อไปเพียงเพื่อจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน