องค์กรพัฒนาเมืองสิงคโปร์ (URA) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (16 ธ.ค.) ว่า ยอดขายบ้านในสิงคโปร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการควบคุมเพิ่มเติม
ข้อมูลระบุว่า บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขายบ้านส่วนบุคคลใหม่ได้ 2,557 ยูนิตในเดือนพ.ย. ซึ่งมากกว่า 6 เดือนก่อนหน้านี้รวมกัน และนับเป็นยอดจำหน่ายในเดือนเดียวที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2556
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การฟื้นตัวดังกล่าวเกิดจากโครงการตลาดแมสหลายโครงการที่เปิดตัวขึ้นในเดือนเดียวกัน เนื่องจากบรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ต่างพยายามใช้ประโยชน์จากต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงและความต้องการที่ยังคงอยู่ โดยผู้ซื้อตอบสนองด้วยการทุ่มซื้อโครงการในเขตชานเมือง รวมถึงโครงการหนึ่งทางตะวันออกที่ขายได้มากกว่า 99% จากทั้งหมด 846 ยูนิต
ทั้งนี้ ความต้องการที่พุ่งขึ้นดังกล่าวทำให้เกิดการคาดการณ์เกี่ยวกับการออกมาตรการควบคุมราคาที่อยู่อาศัยรอบใหม่ เนื่องจากรัฐบาลกำลังพยายามบรรเทาความกังวลของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกี่ยวกับความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีกไม่ถึงหนึ่งปี โดยสิงคโปร์ได้นำมาตรการต่าง ๆ มาใช้หลายรอบในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อควบคุมราคาอสังหาฯ รวมถึงการปรับขึ้นภาษีอากรแสตมป์สำหรับชาวต่างชาติส่วนใหญ่ในปี 2566