ผลสำรวจล่าสุดเผยในวันนี้ (17 ธ.ค.) ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวออสเตรเลียเดือนธ.ค.นี้ถดถอย เนื่องจากสถานะการเงินส่วนตัวที่ดีขึ้นถูกบดบังด้วยความวิตกเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียจากสถาบันเวสต์แพค-เมลเบิร์น ร่วง 2.0% ในเดือนธ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2 เดือนก่อน แม้ยังสูงกว่าปีก่อน 13% แต่ตัวเลขล่าสุดที่ 92.8 สะท้อนว่า คนที่มองโลกในแง่ลบยังมีมากกว่าคนที่มองโลกในแง่บวก
แมทธิว ฮัสซัน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเวสต์แพคชี้ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังเมื่อต้นเดือนธ.ค. น่าจะมีผลต่อความเชื่อมั่นครั้งนี้ ส่งผลให้ดัชนีแนวโน้มเศรษฐกิจ 12 เดือนข้างหน้า ดิ่งลง 9.6% ส่วนแนวโน้ม 5 ปีข้างหน้า ร่วง 7.9%
ในทางตรงกันข้าม ฐานะทางการเงินของแต่ละครอบครัวเมื่อเทียบกับปีก่อนกลับดีขึ้น 6.9% โดยได้อานิสงส์จากมาตรการลดหย่อนภาษีตั้งแต่เดือนก.ค. แต่กลุ่มที่แบกรับภาระสินเชื่อบ้านกลับเป็นกลุ่มที่กังวลมากที่สุด เนื่องจากยังไม่มีทีท่าว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงเมื่อใด
แม้ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.35% ตลอดทั้งปี แต่ล่าสุดมีท่าทีผ่อนคลายลง และอาจปรับลดดอกเบี้ยได้เร็วสุดในเดือนก.พ.ปีหน้า
ส่วนดัชนีชี้วัด "เวลาที่เหมาะสมในการซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ในครัวเรือน" ปรับตัวดีขึ้นที่ 4.8% แต่ก็ยังคงต่ำกว่าระดับ 100
ขณะเดียวกัน ดัชนีชี้วัด "เวลาที่เหมาะสมในการซื้อที่อยู่อาศัย" ของเวสต์แพค ลดลง 6.0% มาอยู่ที่ระดับ 81.6 สะท้อนถึงปัญหาดอกเบี้ยบ้านแพงและคนทั่วไปยังซื้อบ้านไม่ไหว