สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (19 ธ.ค.) ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ยุโรปลดลงในเดือนพ.ย. เนื่องจากบรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของยุโรปต้องเผชิญกับการชะลอตัวลงของอุปสงค์ซึ่งทำให้เกิดวิกฤตอุตสาหกรรม
ACEA ระบุว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ ลดลง 2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.06 ล้านคัน นำโดยการจดทะเบียนที่ลดลงอย่างมากในฝรั่งเศสและอิตาลี ขณะที่สเปนเป็นเพียงตลาดสำคัญเพียงแห่งเดียวที่มียอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ต่างกำลังต่อสู้กับยอดขายที่ชะลอตัวลงในยุโรป ซึ่งผู้บริโภคยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ขณะเดียวกัน การยกเลิกเงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าในบางประเทศก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษต่ำ ซึ่งมักมีราคาแพงกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาป
ทั้งนี้ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของยุโรป อาทิ โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) และ สเตลแลนทิส (Stellantis) ต่างก็กำลังเร่งลดต้นทุน ขณะที่พยายามประนีประนอมกับสหภาพแรงงาน นอกจากนี้ วิกฤตดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อซัพพลายเออร์ด้านรถยนต์ รวมถึงบริษัทสตาร์ตอัปต่าง ๆ เช่น นอร์ธโวลต์ (Northvolt) บริษัทผลิตแบตเตอรี่สัญชาติสวีเดนที่ยื่นขอความคุ้มครองจากการล้มละลายตามมาตรา 11 เมื่อเดือนพ.ย.