ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเกาหลีใต้ดิ่งลงอย่างรวดเร็วในเดือนธ.ค.นี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ท่ามกลางความวิตกที่พุ่งสูงขึ้นเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมือง ภายหลังรัฐสภาลงมติถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอกยอล
ผลสำรวจผู้บริโภครายเดือนของธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ที่เปิดเผยในวันนี้ (24 ธ.ค.) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงสู่ระดับ 88.4 ในเดือนธ.ค. จาก 100.7 ในเดือนพ.ย. ถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ดัชนีแตะระดับ 86.6 ในเดือนพ.ย. 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดเหตุฝูงชนเบียดกันตายในเทศกาลฮาโลวีนจนมีผู้เสียชีวิต 159 ราย
ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 100 บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคที่มีมุมมองต่อเศรษฐกิจในแง่ลบมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองในแง่บวก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้ประท้วงนับพันแห่กันลงท้องถนนในกรุงโซล ขณะที่รัฐสภาลงมติถอดถอนปธน.ยุนเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. สืบเนื่องจากการประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.
ข้อมูลล่าสุดที่เปิดเผยในวันนี้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดรายเดือนชุดแรกนับแต่เกิดวิกฤตกฎอัยการศึกนั้น ชี้ให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกำลังสั่นคลอนอย่างรวดเร็วท่ามกลางความแตกแยกทางการเมือง ขณะที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเตรียมพิจารณาว่าจะถอดถอนปธน.ยุนอย่างเป็นทางการหรือไม่
หลังจากปธน.ยุนประกาศกฎอัยการศึกไม่กี่วัน ดัชนีหุ้น KOSPI ก็ดิ่งลง ส่วนค่าเงินวอนเกาหลีใต้อ่อนค่าแตะจุดต่ำสุดในรอบ 15 ปีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนีย่อยด้านแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง 7 จุด โดย BOK ระบุในแถลงการณ์ว่า "ความปั่นป่วนทางการเมืองภายในประเทศบั่นทอนความเชื่อมั่นในการบริโภค ทั้งการใช้จ่ายด้านการเดินทาง การรับประทานอาหารนอกบ้าน และการซื้อสินค้าคงทน ซึ่งลดลง 8 จุด, 6 จุด และ 3 จุด ตามลำดับ"
รี ชางยง ผู้ว่าการ BOK กล่าวเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ว่า ความวุ่นวายทางการเมืองกำลังกดดันเศรษฐกิจเกาหลีใต้ พร้อมเรียกร้องให้เพิ่มมาตรการกระตุ้นด้านการคลังและมาตรการอื่น ๆ เพื่อพยุงการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ยังคงเดินหน้าต่อไปได้