สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (27 ธ.ค.) ว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนลดลง 7.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 4 นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนยังไม่แข็งแกร่งพอที่พยุงรายได้ของภาคเอกชนให้ฟื้นตัวขึ้นได้
กำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยกำไรในเดือนต.ค.ลดลง 10% หลังจากที่ร่วงลง 27.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563
ส่วนกำไรในภาคอุตสาหกรรมในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย. ปรับตัวลง 4.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า กำไรของภาคอุตสาหกรรมถือเป็นมาตรวัดสถานะทางการเงินของโรงงาน สาธารณูปโภค และเหมืองแร่ในจีน โดยแม้ว่ารัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วหลายครั้งนับตั้งแต่ปลายเดือนก.ย. แต่ข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่มีการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืด อันเนื่องมาจากอุปสงค์ของผู้บริโภคอ่อนแอลงและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทรุดตัวลงเป็นเวลานาน