ผลสำรวจจากเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) ที่เปิดเผยในวันนี้ (2 ม.ค.) บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตเกาหลีใต้หดตัวในเดือนธ.ค. ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้ผลิตแย่ลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางปี 2563 อันเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ และการเมืองภายในประเทศ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของเอเชีย ลดลงสู่ระดับ 49.0 ในเดือนธ.ค. จาก 50.6 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เดือนส.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ดัชนีย่อยด้านผลผลิตหดตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และหดตัวหนักกว่าเดือนก่อนหน้า ด้านคำสั่งซื้อใหม่ก็ลดลงเช่นกัน ผลสำรวจระบุว่า อุปสงค์ที่อ่อนแอลงนั้นเชื่อมโยงกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศที่ลดต่ำลง ขณะที่คำสั่งซื้อจากต่างประเทศเติบโตเพียงเล็กน้อย
ส่วนความเชื่อมั่นของผู้ผลิตต่อแนวโน้มปีหน้าดิ่งต่ำกว่า 50 จุด บ่งชี้ถึงมุมมองเชิงลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2563 และต่ำสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง นอกจากนี้ หากไม่นับช่วงโควิด-19 ก็จะถือว่าต่ำสุดตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในเดือนเม.ย. 2555
"ความกังวลต่อเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงแนวโน้มนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ประกอบการมีมุมมองเชิงลบ" อุซามะฮ์ ภัตติ นักเศรษฐศาสตร์จากเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ กล่าว
ผลสำรวจระบุว่า อุปสงค์จากจีนและสหรัฐฯ อ่อนแอ แต่อุปสงค์จากตลาดยุโรปและบางประเทศในเอเชียแปซิฟิกที่ปรับตัวดีขึ้นช่วยชดเชยได้บางส่วน