ผลสำรวจที่รายงานในวันนี้ (2 ม.ค.) ระบุว่า ภาคการผลิตของอินเดียในเดือนธ.ค. เติบโตในอัตราที่ช้าที่สุดของปี 2567 ท่ามกลางอุปสงค์ที่ซบเซา แม้ว่าแรงกดดันด้านต้นทุนจะผ่อนคลายลงและการจ้างงานยังคงแข็งแกร่งก็ตาม ซึ่งถือว่าส่งสัญญาณไม่สู้ดีนักสำหรับการเริ่มต้นปี 2568
ตัวเลขล่าสุดสวนทางกับตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่คาดว่าภาคการผลิตของอินเดียจะเติบโตเร็วขึ้นในเดือนธ.ค. โดยภาคการผลิตคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของเศรษฐกิจอินเดีย ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย โดยเศรษฐกิจอินเดียเติบโตช้าที่สุดในรอบ 7 ไตรมาสในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของอินเดียจาก HSBC ซึ่งจัดทำโดย S&P Global อยู่ที่ 56.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2566 โดยแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับ 56.5 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ 57.4 แต่ดัชนียังคงยืนเหนือระดับ 50 มาได้ตลอด 3 ปีครึ่ง
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
"ภาคการผลิตอินเดียปิดฉากปี 2567 อย่างเงียบเหงา ท่ามกลางสัญญาณชะลอตัวที่ชัดขึ้นในภาคอุตสาหกรรม แม้จะยังอยู่ในระดับกลาง ๆ" อิเนส แลม นักเศรษฐศาสตร์ HSBC กล่าว "คำสั่งซื้อใหม่ขยายตัวช้าที่สุดในรอบปี ส่อเค้าว่าการผลิตในอนาคตจะชะลอลง"
แม้ว่าผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดอุปสงค์ที่สำคัญ ยังคงเพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค. แต่อัตราการเติบโตชะลอตัวลง
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ระหว่างประเทศที่ดีขึ้นช่วยให้การส่งออกพุ่งแรงที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้นจากเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป และทวีปอเมริกา
ภาคการผลิตยังรับคนเพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 โดยเดือนธ.ค. มีอัตราจ้างงานโตเร็วที่สุดนับแต่เดือนส.ค.
ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตสินค้าฉวยโอกาสช่วงที่ต้นทุนเพิ่มช้าลง ผลักภาระบางส่วนไปยังลูกค้า สะท้อนจากดัชนีราคาผลผลิตที่ลดลงน้อยกว่าราคาวัตถุดิบในเดือนธ.ค. S&P Global ชี้ว่า อุปสงค์ที่ยังแกร่งช่วยให้ผู้ผลิตรักษาอำนาจในการกำหนดราคาไว้ได้
"ราคาวัตถุดิบเริ่มขยับขึ้นช้าลงเล็กน้อย ปิดท้ายปีที่ผู้ผลิตอินเดียต้องแบกรับแรงกดดันด้านต้นทุนอย่างหนัก" แลมกล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นทางธุรกิจร่วงลง โดยถูกกดดันจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือด ทำให้มุมมองต่ออนาคตชะลอตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนพ.ย.