สำนักข่าวเกียวโดเปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (3 ม.ค.) ระบุว่า เกือบ 80% ของบริษัทขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2568 และยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อความคืบหน้าของการปรับขึ้นค่าจ้างและการฟื้นตัวด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ในการสำรวจบริษัทญี่ปุ่นจำนวน 114 แห่งในช่วงปลายเดือนพ.ย.ถึงกลางเดือนธ.ค. 2567 พบว่า 78% ของบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวในระดับปานกลาง เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่พบว่ามีบริษัท 73% คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวปานกลาง
เมื่อผู้สำรวจตั้งคำถามกับบริษัทต่าง ๆ ว่าเพราะเหตุใดจึงคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2568 โดยเหตุผลที่มักถูกอ้างถึงมากที่สุดคือการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคซึ่งอยู่ที่ 88% และเหตุผลรองลงมาคือค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีผู้เลือกตอบ 81%
นอกจากนี้ ผลสำรวจพบว่า 46% ของบริษัทเหล่ากล่าวว่า พวกเขากำลังพิจารณาหรือวางแผนปรับขึ้นค่าจ้างในปี 2568 ในขณะที่ 45% ยังไม่ได้ตัดสินใจ
เมื่อถามถึงผลกระทบทางธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นจากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมัยที่ 2 มีบริษัทประมาณ 13% ระบุว่า ผลกระทบดังกล่าวมีแนวโน้มเป็นไปในด้านลบ ในขณะที่ 3% ระบุว่ามีแนวโน้มเป็นบวก
สำหรับข้อกังวลที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์ คือการที่ทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีศุลกากร รองลงมาคือนโยบายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม และตามด้วยนโยบายความมั่นคงทางเศรษฐกิจที่มีต่อจีน