ผลสำรวจภาคเอกชนที่เปิดเผยในวันนี้ (6 ม.ค.) ระบุว่า กิจกรรมภาคบริการของญี่ปุ่นขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนธ.ค. 2567 โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและการขยายตัวทางธุรกิจ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของญี่ปุ่นจาก au Jibun Bank ที่จัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ (S&P Global Market Intelligence) เติบโตขึ้นเป็น 50.9 ในเดือนธ.ค. จาก 50.5 ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 51.4 แต่ยังคงอยู่เหนือระดับ 50.0 เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
"ข้อมูลเดือนธ.ค.สะท้อนภาพบวกของภาคบริการญี่ปุ่น ทั้งในแง่กิจกรรมธุรกิจและธุรกรรมใหม่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง" อุซามะฮ์ ภัตติ นักเศรษฐศาสตร์จากเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ กล่าว
ดัชนีย่อยของธุรกรรมใหม่พุ่งสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยมีแรงหนุนจากฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะในประเทศ
การจ้างงานขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 แม้ชะลอลงจากเดือนพ.ย. บริษัทที่ร่วมสำรวจระบุว่า มีการจ้างพนักงานเพิ่มเพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจ
ภาคธุรกิจยังคงมองโลกในแง่ดีในเดือนธ.ค. แม้ระดับความเชื่อมั่นจะอ่อนลงเล็กน้อยจากเดือนพ.ย. บริษัทต่าง ๆ มองว่า ความต้องการและกิจกรรมทางธุรกิจจะเติบโตขึ้นในปีนี้
อัตราเงินเฟ้อไม่เปลี่ยนแปลงและยังคงอยู่ในระดับสูงในเดือนธ.ค. ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากต้นทุนแรงงานและวัตถุดิบที่สูงขึ้น บริษัทได้ผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้า อย่างไรก็ตาม อัตราค่าบริการที่เรียกเก็บในเดือนธ.ค.ก็ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า
ด้านดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการ เพิ่มขึ้นเป็น 50.5 ในเดือนธ.ค. จาก 50.1 ในเดือนพ.ย.
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อในภาคบริการเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า ธนาคารจำเป็นต้องจับตาสถานการณ์ต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์
อนึ่ง BOJ จะจัดการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในวันที่ 23-24 ม.ค.