ภาคบริการซึ่งเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจฝรั่งเศส มีการจ้างงานลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ ต้องรับมือกับภาวะดีมานด์ที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนทางการเมือง จากผลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) วันนี้ (6 ม.ค.)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของฝรั่งเศสจาก HCOB พลิกตัวขึ้นเล็กน้อย มาอยู่ที่ 49.3 ในเดือนธ.ค. จากจุดต่ำสุดในรอบ 10 เดือนที่ 46.9 ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ด้านคำสั่งซื้อใหม่ก็ลดลงเช่นกัน แต่เป็นการลดลงที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. โดยผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองและปัญหาในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยังเป็นอุปสรรคสำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
"ผู้ให้บริการกำลังประสบปัญหาเรื่องอำนาจในการกำหนดราคามากขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังอ่อนแอ" ดร.ทาริก คามาล เชาธรี นักเศรษฐศาสตร์จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) กล่าว
การที่การจ้างงานในภาคบริการของฝรั่งเศสลดลงในเดือนธ.ค.ไม่ได้เกิดจากการที่บริษัทเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก แต่เกิดจากบริษัทไม่ได้ต่อสัญญาจ้างงานพนักงานชั่วคราว และเมื่อพนักงานลาออกโดยสมัครใจแล้วบริษัทไม่ได้จ้างคนใหม่มาแทน
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของฝรั่งเศส ดีดตัวขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 47.5 ในเดือนธ.ค. จาก 45.9 ในเดือนพ.ย. แต่ยังคงบ่งชี้ว่าผลผลิตภาคเอกชนของฝรั่งเศสยังคงอยู่ในภาวะหดตัว