สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (9 ม.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนธ.ค. 2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ย.ที่ปรับตัวขึ้น 0.2% ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืด
ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าดัชนี CPI เดือนธ.ค.จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 0.1% จากระดับ 0.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนราคาสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวลง 2.3% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 27 แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.4%
ดัชนี CPI ที่ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 0% นั้น สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศอ่อนแอลง ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าจีนอาจจะเผชิญกับภาวะเงินฝืด
ทั้งนี้ การอุปโภคบริโภคของจีนยังไม่สามารถฟื้นตัวแม้ว่ารัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายรายการนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย การออกมาตรการสนับสนุนตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการเพิ่มการปล่อยกู้ในภาคธนาคาร