สำนักงานสถิติแห่งชาติของออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ (9 ม.ค.) ว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนพ.ย. 2567 แม้ว่าบรรดาห้างค้าปลีกพยายามสร้างแรงจูงใจด้วยการปรับลดราคาสินค้าในช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสและวันแบล็กฟรายเดย์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคออสเตรเลียยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวอาจเป็นแรงผลักดันให้ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงหลังมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสมากกว่า 70% ที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.พ.
แคโรล คอง นักเศรษฐศาสตร์จากคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย (Commonwealth Bank of Australia) กล่าวว่า "ยอดค้าปลีกที่อ่อนแอกว่าที่คาด ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่อ่อนตัวเมื่อวานนี้ เป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า RBA จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งมากกว่าในเดือนต.ค.ที่เพิ่มขึ้น 2.1% และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.2% เนื่องจากต้นทุนค่าไฟฟ้าพุ่งขึ้น 22% ในเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จับตาอย่างใกล้ชิดนั้น ลดลงสู่ระดับ 3.2% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 3.5% ในเดือนต.ค. โดยดัชนี CPI พื้นฐานเดือนพ.ย.อยู่ใกล้กับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ RBA กำหนดไว้ที่ระดับ 2% - 3%