อินโดนีเซียรายงานยอดเกินดุลการค้า 2.24 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. 2567 ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เหตุยอดนำเข้าพุ่งสูงขึ้นและการส่งออกขยายตัวไม่เป็นไปตามคาด
ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ยอดเกินดุลไว้ 3.79 พันล้านดอลลาร์ ส่วนตัวเลขเกินดุลเดือนพ.ย. ถูกปรับแก้ลงเหลือ 4.37 พันล้านดอลลาร์
ยอดส่งออกของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 4.78% ในเดือนธ.ค. เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 2.346 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าผลสำรวจซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 7.38%
ข้อมูลบ่งชี้ว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มทะยานขึ้น 30% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 1.89 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. แต่การส่งออกถ่านหินร่วงลง 10.4% เหลือ 2.69 พันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ยอดนำเข้าในเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 11.07% แตะระดับ 2.122 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าผลสำรวจซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.84%
ตลอดปี 2567 การส่งออกของอินโดนีเซียมีมูลค่ารวม 2.647 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.29% จากปี 2566 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 2.3366 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.31% จากปี 2566
ยอดเกินดุลการค้าปี 2567 อยู่ที่ 3.104 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 3.689 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2566 นับเป็นยอดเกินดุลต่ำสุดในรอบ 4 ปี
อินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้าไม่รวมน้ำมันและก๊าซสูงสุดกับสหรัฐฯ ด้วยมูลค่า 1.684 หมื่นล้านดอลลาร์ และขาดดุลการค้ากับจีน 1.141 หมื่นล้านดอลลาร์ ไม่นับรวมการค้าน้ำมันและก๊าซ