ผลสำรวจจากธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) บ่งชี้ในวันนี้ (23 ม.ค.) ว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเกาหลีใต้ในเดือนม.ค.ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี อยู่ที่ 85.9 จุด ลดลง 1.4 จุดจากเดือนธ.ค. เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ ประกอบกับความไม่สงบทางการเมือง หลังประธานาธิบดียุน ซอกยอล ประกาศกฎอัยการศึก
ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจรวม (CBSI) ในเดือนม.ค.ปีนี้ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2563 ซึ่งตอนนั้นอยู่ที่ 83 จุด โดยก่อนหน้านี้ ในเดือนธ.ค. ดัชนีดังกล่าวก็ลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 สืบเนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึกอย่างกะทันหันของปธน.ยุนเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ซึ่งถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ส่งผลให้เขาถูกถอดถอนและถูกจับกุมในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังชี้ว่า แนวโน้มความเชื่อมั่นในเดือนก.พ.นั้นปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 2.5 จุด มาอยู่ที่ 85.4 จุด
สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า ดัชนี CBSI เป็นตัวชี้วัดการคาดการณ์ของภาคธุรกิจเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ โดยค่าที่ต่ำกว่า 100 หมายความว่าผู้ที่มองโลกในแง่ร้ายมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มองโลกในแง่ดี
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมนั้น ผลสำรวจพบว่า CBSI ในภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 1.9 จุดจากเดือนธ.ค. มาอยู่ที่ 89 จุดในเดือนม.ค. ขณะที่ CBSI นอกภาคการผลิตลดลง 3.9 จุด มาอยู่ที่ 83.6 จุด
ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (ESI) ซึ่งรวมความเชื่อมั่นทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 3.4 จุด มาอยู่ที่ 86.7 จุดในเดือนม.ค. หลังจากลดลง 9.6 จุดในเดือนธ.ค.
ก่อนหน้านี้ BOK คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะขยายตัว 1.9% ในปี 2568 ซึ่งชะลอตัวลงจาก 2.2% ในปี 2567 แต่หลายฝ่ายคาดว่าตัวเลขคาดการณ์ปี 2568 อาจจะถูกปรับลดลงอีก เนื่องจากหลายปัจจัยลบ เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง การชะลอตัวของการส่งออก อุปสงค์ภายในประเทศที่ซบเซา และการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายใต้รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ที่นำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์