ฮุนได มอเตอร์ (Hyundai Motor) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากเกาหลีใต้ ได้คาดการณ์ในวันนี้ (23 ม.ค.) ว่า ยอดขายในปี 2568 จะชะลอตัวลง เนื่องจากความต้องการรถยนต์ลดลงและการแข่งขันเพิ่มขึ้น หลังกำไรในไตรมาส 4/2567 ร่วงหนักถึง 17%
ฮุนได และเกีย คอร์ป (Kia Corp) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ คาดการณ์ว่า รายได้ในปี 2568 จะเติบโต 3.0% - 4.0% ในปีนี้ ลดลงจากที่ขยายตัว 7.7% ในปีก่อนหน้า และคาดว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ 7.0% - 8.0% ลดลงจาก 8.1% ในปี 2567
ฮุนไดระบุว่า "ความไม่แน่นอนทางธุรกิจเพิ่มขึ้นในปีนี้" และได้อ้างถึงการชะลอตัวในตลาดหลัก อุปสงค์ด้านรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ชะลอตัว และความผันผวนของเศรษฐกิจมหภาค
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกกำลังเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอนของนโยบายในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า เขาอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% จากแคนาดาและเม็กซิโกตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป ทั้งยังพิจารณายกเลิกเครดิตภาษีสำหรับการซื้อ EV อีกด้วย
ตลาดที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งของฮุนได และเกีย ได้แก่ อเมริกาเหนือ และเกาหลีใต้
ทั้งนี้ ฮุนไดรายงานกำไรจากการดำเนินงาน 2.8 ล้านล้านวอน (1.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. 2567