กิจกรรมภาคการผลิตของฝรั่งเศสเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นในช่วงต้นปี 2568 หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของฝรั่งเศสจาก HCOB ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ตามผลสำรวจที่เปิดเผยวันนี้ (3 ก.พ.)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนี PMI ดังกล่าวซึ่งจัดทำโดย S&P Global เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 45.0 ในเดือนม.ค. จากระดับ 41.9 ในเดือนธ.ค. ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ภาคการผลิตเริ่มหดตัวช้าลงอย่างเด่นชัด
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ผลสำรวจระบุว่า ผลผลิตในโรงงานชะลอตัวลงน้อยที่สุดนับจากเดือนก.ค. ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ก็ลดลงในอัตราที่ช้าลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงกดดันจากตลาดส่งออกที่เริ่มผ่อนคลาย
อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตในฝรั่งเศสยังคงเผชิญกับภาวะความต้องการซื้อที่ซบเซา และการจ้างงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนแรงงานในภาคการผลิตปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 20 สาเหตุหลักมาจากการไม่ต่อสัญญาจ้างพนักงานชั่วคราว
ดร.ทาริก คามาล เชาธรี นักเศรษฐศาสตร์จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) กล่าวว่า "ภาคการผลิตของฝรั่งเศสยังคงอยู่ในภาวะถดถอยขั้นรุนแรง" พร้อมระบุว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองในฝรั่งเศสยิ่งซ้ำเติมความกังวลของผู้ผลิต
ด้านต้นทุนปัจจัยการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ราคาผลผลิตได้ถูกปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 เนื่องจากบริษัทต้องปรับตัวรับมือกับสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง แม้จะต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน แต่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจกลับพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการมีมุมมองเชิงลบลดลงเมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 2567