ผลสำรวจที่เผยแพร่วันนี้ (3 ก.พ.) ชี้ว่า อุตสาหกรรมการผลิตในยูโรโซนที่กำลังประสบปัญหาเริ่มส่งสัญญาณการทรงตัวในช่วงต้นปี โดยบริษัทต่าง ๆ ไม่ได้กังวลมากนักกับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นและความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อแนวโน้มในอนาคต
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนจาก HCOB ซึ่งจัดทำโดย S&P Global ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 46.6 ในเดือนม.ค. จาก 45.1 ในเดือนธ.ค. สูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 46.1 แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 มาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ดัชนีวัดผลผลิต ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการที่จะประกาศในวันพุธนี้ (5 ก.พ.) และถือเป็นเครื่องชี้วัดสุขภาพเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 44.3 มาอยู่ที่ 47.1
การหดตัวของอุปสงค์ที่ดำเนินมาเกือบสามปีเริ่มผ่อนคลายลง โดยดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ปรับตัวขึ้นจาก 43.0 มาอยู่ที่ 45.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน
แม้ว่าบริษัทต่าง ๆ ยังคงลดจำนวนพนักงานอยู่ แต่ความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มธุรกิจในปีหน้าได้ปรับตัวสูงขึ้นเหนือค่าเฉลี่ยระยะยาว และแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสามปี