ผลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ (S&P Global Market Intelligence) ที่เผยแพร่วันนี้ (5 ก.พ.) ระบุว่า ภาคบริการของญี่ปุ่นเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนม.ค. โดยมีแรงหนุนจากการส่งออกที่ฟื้นตัวตามความต้องการในภูมิภาคเอเชีย
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของญี่ปุ่นจาก au Jibun Bank ปรับขึ้นจากระดับ 50.9 ในเดือนธ.ค. มาอยู่ที่ 53.0 ในเดือนม.ค. ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าประมาณการเบื้องต้นที่ 52.7 และยังคงอยู่เหนือระดับ 50.0 เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ด้านดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 51.1 ในเดือนม.ค. ถือเป็นการเติบโตที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว
"ภาคบริการที่แข็งแกร่งยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของภาคเอกชนทั้งระบบ" อุซามะฮ์ ภัตติ นักเศรษฐศาสตร์จากเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ กล่าว
ภัตติกล่าวว่า บริษัทต่าง ๆ ยังมองแนวโน้มธุรกิจในแง่ดี "เนื่องจากคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวทั้งในภาคการผลิตและเศรษฐกิจโดยรวม"
ผลสำรวจชี้ว่า ดัชนีธุรกิจใหม่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนม.ค. โดยมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับเดือนก.ค.ปีที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าใหม่และการขยายสาขา
ในด้านการส่งออก ยอดที่เพิ่มขึ้นช่วยสนับสนุนอุปสงค์โดยรวมของเดือนม.ค. โดยธุรกิจส่งออกใหม่กลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และมีความแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว อันเป็นผลจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วภูมิภาคเอเชีย
ส่วนมุมมองธุรกิจของบริษัทต่าง ๆ ยังคงเป็นบวกในเดือนม.ค. โดยได้แรงหนุนจากการได้สัญญาใหม่ แผนการขยายธุรกิจ และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ผลสำรวจยังพบว่าการจ้างงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 เพื่อรองรับปริมาณงานที่มากขึ้น
ราคาปัจจัยการผลิตในเดือนม.ค.ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากค่าแรง ค่าน้ำมัน และค่าวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องปรับราคาขายตามไปด้วย จนแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว
อนึ่ง ในการประชุมเมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี โดยคณะกรรมการได้หารือถึงความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม เนื่องจากบางส่วนมีความกังวลว่าเงินเฟ้ออาจปรับตัวสูงขึ้น