ผลสำรวจจาก S&P Global ในวันนี้ (5 ก.พ.) พบว่า ธุรกิจในยูโรโซนกลับมาขยายตัวในช่วงต้นปี หลังจากหดตัวติดต่อกัน 2 เดือน เนื่องจากอุปสงค์เริ่มทรงตัว
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซนจาก HCOB ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดสภาวะเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือ ปรับตัวขึ้นจากระดับ 49.6 ในเดือนธ.ค. มาอยู่ที่ 50.2 ในเดือนม.ค. สอดคล้องกับที่ประเมินไว้เบื้องต้น
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ภาคบริการซึ่งเป็นกำลังหลักของเศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัวเล็กน้อย ช่วยชดเชยการหดตัวที่ยังคงเกิดขึ้นในภาคการผลิตที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซนลดลงเล็กน้อยจากระดับ 51.6 ในเดือนธ.ค. มาอยู่ที่ 51.3 ในเดือนม.ค.
ธุรกิจภาคบริการเร่งจ้างงานเพิ่มในเดือนที่ผ่านมาเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มุมมองต่อปีหน้าเริ่มขาดความเชื่อมั่นลงเล็กน้อย สะท้อนจากดัชนีความคาดหวังทางธุรกิจที่ปรับตัวลดลงจาก 58.8 มาอยู่ที่ 58.5 และยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตตั้งแต่กลางปี 2567
ทั้งต้นทุนปัจจัยการผลิตโดยรวมและราคาขายปรับตัวสูงขึ้นเร็วกว่าเดิมในเดือนที่ผ่านมา โดยดัชนีต้นทุนปัจจัยการผลิตรวมพุ่งขึ้นจาก 57.0 มาแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสองปีที่ 58.5
อนึ่ง ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมส่งสัญญาณว่าอาจพิจารณาปรับลดเพิ่มเติมในเดือนมี.ค.นี้