ผลสำรวจจาก S&P Global ที่เผยแพร่ในวันนี้ (5 ก.พ.) ระบุว่า ภาคบริการของฝรั่งเศสหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค. โดยกิจกรรมทางธุรกิจลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 สาเหตุมาจากอุปสงค์ที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนทางการเมือง
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของฝรั่งเศสจาก HCOB ปรับตัวลดลงจากระดับ 49.3 ในเดือนธ.ค. มาอยู่ที่ 48.2 ในเดือนม.ค. ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 48.9
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ผลสำรวจระบุว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองและกำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลงส่งผลให้กิจกรรมทางธุรกิจชะลอตัว
ในเดือนม.ค. การจ้างงานในภาคบริการลดลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ไม่รับพนักงานใหม่มาทดแทนคนที่ลาออก อีกทั้งยังมีพนักงานชั่วคราวที่หมดสัญญาจ้าง
ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจทรุดต่ำสุดในรอบ 56 เดือน สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ
แม้ว่าต้นทุนจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาปัจจัยการผลิตเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในรอบ 5 เดือน แต่ผู้ให้บริการกลับปรับลดราคาขายลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงและต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขัน
ผลสำรวจพบว่ามีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นน้อยลง แม้ว่าคำสั่งซื้อจากต่างประเทศจะเริ่มมีเสถียรภาพ
บรรดาบริษัทยังคงมองแนวโน้มในอนาคตด้วยความกังวล โดยความเชื่อมั่นต่อกิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563
ในส่วนของดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของฝรั่งเศสก็ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก โดยแม้จะปรับตัวขึ้นจากระดับ 47.5 ในเดือนธ.ค. มาอยู่ที่ 47.6 ในเดือนม.ค. แต่ก็ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 48.3 และยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5