ผลสำรวจล่าสุดจาก S&P Global ในวันนี้ (5 ก.พ.) พบว่า ภาคบริการของสหราชอาณาจักร (UK) เริ่มส่อแววชะลอตัวในเดือนม.ค. เนื่องจากการปรับขึ้นภาษีนายจ้างที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้มีการปลดพนักงานในอัตราเร็วที่สุดในรอบ 4 ปี ขณะที่แรงกดดันด้านราคายังคงอยู่ในระดับสูง
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของ UK ปรับตัวลดลงจากระดับ 51.1 ในเดือนธ.ค. มาอยู่ที่ 50.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำเทียบเท่ากับเดือนพ.ย. 2566 และต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 51.2
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
การจ้างงานได้หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยมีอัตราการปลดพนักงานเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2564
ในส่วนของต้นทุนปัจจัยการผลิตนั้น ได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2567 โดยส่วนใหญ่มาจากค่าแรงที่พุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ราคาสินค้าและบริการที่บริษัทเรียกเก็บก็ปรับตัวสูงขึ้นเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน
ผลสำรวจชี้ว่า ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2565 สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเรื่องความต้องการในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ยอดคำสั่งซื้อใหม่หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน โดยบริษัทต่าง ๆ รายงานว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลง อันเป็นผลมาจากนโยบายงบประมาณที่ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงไว้เมื่อเดือนต.ค. รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
ด้านดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของ UK อยู่ที่ระดับ 50.6 ในเดือนม.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ 50.9