สำนักงานศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชาเปิดเผยในวันนี้ (10 ก.พ.) ว่า มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาในเดือนม.ค. 2568 อยู่ที่ 5.05 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 4.05 พันล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า มูลค่าการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชาอยู่ที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนม.ค. ปีนี้ เพิ่มขึ้น 17% จากระดับ 1.96 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบรายปี ขณะที่มูลค่าการนำเข้าทั้งหมดเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.75 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 31.5% จากระดับ 2.09 พันล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ตามมาด้วยสหรัฐฯ เวียดนาม ไทย และญี่ปุ่น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สินค้าส่งออกหลักของกัมพูชา ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า สินค้าเดินทาง จักรยาน ยางรถยนต์ แผงโซลาร์ ยางแห้ง ข้าวสาร กล้วย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มะม่วง และลำไย ขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ วัตถุดิบสำหรับการผลิตเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าเดินทาง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม วัสดุก่อสร้าง ยานยนต์และมอเตอร์ไซค์ สินค้าอุปโภคบริโภค ยา และเครื่องสำอาง
เพ็ญ โสวิชิต ปลัดและโฆษกกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชา เปิดเผยว่า ความตกลง RCEP และ FTA ที่กัมพูชาทำไว้กับจีน เกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยผลักดันการค้าของกัมพูชาให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
เขากล่าวว่า "ด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากความตกลง RCEP และ FTA ต่าง ๆ เรามั่นใจว่าการส่งออกของกัมพูชาไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนและประเทศสมาชิก RCEP จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง"