ผลสำรวจของบริษัท GfK ที่เผยแพร่วันนี้ (21 ก.พ.) ระบุว่า ผู้บริโภคชาวอังกฤษมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านการเงินครัวเรือนปรับตัวดีขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ -20 ในเดือนก.พ. จากระดับ -22 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับจากเดือนธ.ค. 2566 ขณะที่ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าดัชนีจะทรงตัวที่ระดับ -22
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจลดลงในปีที่ผ่านมา หลังรัฐบาลใหม่ของนายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ระบุว่าได้รับมอบเศรษฐกิจที่มีปัญหามาจากรัฐบาลชุดก่อน และราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขึ้นภาษีนายจ้างเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายภาครัฐ
นีล เบลลามี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคของ NIQ GfK กล่าวว่า การที่ BoE ลดดอกเบี้ย 0.25% เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นบางส่วน แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังเผชิญปัญหาค่าครองชีพสูง โดยเฉพาะค่าสาธารณูปโภค
"ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่า มุมมองของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจยังแย่กว่าเมื่อ 12 เดือนก่อน สะท้อนว่าประชาชนไม่คาดหวังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเร็ว ๆ นี้ ... นักการเมืองที่มองหาสัญญาณบวกคงต้องผิดหวัง" เบลลามีกล่าว
เมื่อต้นเดือนก.พ. BoE ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2568 ลงครึ่งหนึ่งเหลือ 0.75%
องค์ประกอบทั้ง 5 ด้านในผลสำรวจของ GfK ปรับตัวดีขึ้น โดยความคาดหวังด้านการเงินส่วนบุคคลใน 12 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น 4 จุด
ทั้งนี้ การสำรวจจัดทำระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-13 ก.พ. โดยสอบถามชาวอังกฤษอายุ 16 ปีขึ้นไปจำนวน 2,011 คน