ผลสำรวจที่เผยแพร่วันนี้ (21 ก.พ.) ระบุว่า กิจกรรมทางธุรกิจของฝรั่งเศสหดตัวรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในเดือนก.พ. โดยเฉพาะภาคบริการที่เป็นภาคเศรษฐกิจหลักมีธุรกิจใหม่และงานคงค้างลดลงอย่างมาก
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นของฝรั่งเศสจาก HCOB ซึ่งจัดทำโดย S&P Global ลดลงสู่ระดับ 44.5 ในเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 48.9 และต่ำกว่าตัวเลขเดือนม.ค.ที่ 48.2
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือนของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองในยูโรโซน และต่ำกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเป็น 45.5 ในเดือนก.พ. สูงสุดในรอบ 9 เดือน จาก 45.0 ในเดือนม.ค. และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้น ร่วงลงแรงสู่ระดับ 44.5 ในเดือนก.พ. จาก 47.6 ในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 48.0 โดยการลดลงกว่า 3 จุดครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2566
ดร. ทาริก คามาล เชาธรี นักเศรษฐศาสตร์จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ระบุว่า "เศรษฐกิจฝรั่งเศสยังคงถดถอยโดยไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัว ดัชนี PMI ขั้นต้นในเดือนก.พ.ไม่ได้ส่งสัญญาณบวกใด ๆ และที่น่าแปลกใจคือภาคบริการกลับกลายเป็นตัวฉุดให้เศรษฐกิจทรุดตัวลงในครั้งนี้ ไม่ใช่ภาคการผลิต"
ทั้งนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2568 ลงเหลือ 0.9% จาก 1.1% เมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมตั้งเป้าขาดดุลงบประมาณที่ 5.4% ของ GDP