ผลสำรวจที่เผยแพร่วันนี้ (21 ก.พ.) แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนในเดือนก.พ.ยังคงขยายตัวที่ระดับต่ำ โดยได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลงต่อเนื่องและในอัตราเร็วขึ้น ขณะที่การขยายตัวเล็กน้อยของภาคบริการไม่เพียงพอที่จะช่วยชดเชยการหดตัวที่ยาวนานของภาคการผลิต
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซนจาก HCOB ซึ่งจัดทำโดย S&P Global อยู่ที่ระดับ 50.2 ในเดือนก.พ. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนม.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 50.5
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
"เศรษฐกิจยูโรโซนแทบไม่ขยับ แม้ภาคการผลิตจะหดตัวน้อยลง แต่ก็ถูกกลบด้วยการเติบโตที่แทบจะสังเกตไม่เห็นของภาคบริการ" ไซรัส เดอ ลา รูเบีย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) กล่าว พร้อมระบุว่า "ตัวเลขเหล่านี้ยังไม่บ่งชี้การฟื้นตัวของยูโรโซน"
อุปสงค์โดยรวมหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 และหดตัวเร็วขึ้น สะท้อนจากดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลงเหลือ 48.6 ในเดือนก.พ. จาก 49.3 ในเดือนม.ค.
ด้านดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจหลัก ลดลงเหลือ 50.7 ในเดือนก.พ. จาก 51.3 ในเดือนม.ค. สวนทางการคาดการณ์ที่ 51.5
ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้น ซึ่งอยู่ต่ำกว่า 50 มาเกือบสามปี ปรับตัวดีขึ้นเป็น 47.3 ในเดือนก.พ. จาก 46.6 ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 47.0
ทั้งนี้ ผู้ผลิตยังคงมีมุมมองบวกเกี่ยวกับอนาคต แม้จะมีความเสี่ยงจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยดัชนีผลผลิตในอนาคตลดลงเล็กน้อยเป็น 59.6 ในเดือนก.พ. จาก 60.5 ในเดือนม.ค. แต่ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว