ผลสำรวจล่าสุดซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ (11 มี.ค.) บ่งชี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร (UK) เริ่มชะลอตัวในเดือนก.พ. หลังจากที่ฟื้นตัวในเดือนม.ค. แม้ว่าความเชื่อมั่นต่อสถานะการเงินส่วนบุคคลและเศรษฐกิจโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้นก็ตาม
สมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร (BRC) รายงานว่า ยอดขายของผู้ค้าปลีกที่เป็นสมาชิกของ BRC ซึ่งส่วนใหญ่เป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ เพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ชะลอลงจากการเติบโต 2.6% ในเดือนม.ค. ซึ่งได้แรงหนุนจากการลดราคาหลังเทศกาลคริสต์มาส
เฮเลน ดิกคินสัน ประธานบริหาร BRC กล่าวว่า การเติบโตที่ชะลอตัวมีสาเหตุมาจากยอดขายเสื้อผ้าแฟชั่นฤดูใบไม้ผลิที่ซบเซา เนื่องจากอากาศยังคงหนาวเย็นในเดือนก.พ. อีกทั้งยังมีความกังวลเรื่องภาษีประกันสังคมนายจ้างและภาษีบรรจุภัณฑ์ที่จะปรับขึ้นในเดือนเม.ย.นี้
"ภาคธุรกิจค้าปลีกพยายามอย่างเต็มที่ในการแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้า หรือลดการลงทุนด้านการจ้างงานและสาขา หรืออาจต้องดำเนินการทั้งสองทาง" ดิกคินสันกล่าว พร้อมแสดงความกังวลต่อแผนของรัฐบาลที่จะเพิ่มความเข้มงวดในการเลิกจ้างพนักงานใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบธุกิจค้าปลีกไม่อยากรับพนักงานระดับเริ่มต้น โดยเสนอแนะให้มุ่งแก้ปัญหาการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมของนายจ้างบางรายแทน
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากบาร์เคลย์ส (Barclays) ซึ่งสำรวจการใช้จ่ายในวงกว้างกว่า พบว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.พ. ชะลอลงจาก 1.9% ในเดือนม.ค. อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นต่อสถานะการเงินส่วนบุคคลพุ่งแตะที่ 75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มสำรวจในปี 2558 แม้ส่วนหนึ่งจะเป็นผลมาจากการเก็บออมก็ตาม ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 25%
ทั้งนี้ ข้อมูลการใช้จ่ายของบาร์เคลย์สรวบรวมจากธุรกรรมบัตรเดบิตและบัตรเครดิตระหว่างวันที่ 25 ม.ค. ถึง 21 ก.พ. ส่วนข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคมาจากการสำรวจประชาชน 2,000 คน ระหว่างวันที่ 21-26 ก.พ. ขณะที่ข้อมูลของ BRC ครอบคลุมยอดขายตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. ถึง 1 มี.ค.