สถาบันผู้สำรวจอสังหาริมทรัพย์แห่งราชอาณาจักร (RICS) เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (13 มี.ค.) บ่งชี้ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหราชอาณาจักร (UK) ส่งสัญญาณชะลอตัวรุนแรงที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปีในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากกระแสเร่งปิดดีลของผู้ซื้อเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีก่อนหมดเขตนั้นได้เริ่มซาลง
RICS รายงานว่า อุปสงค์จากผู้ซื้ออ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 และมีแนวโน้มจะยังคงซบเซาต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
ดุลราคาบ้านสุทธิ ซึ่งชี้วัดส่วนต่างระหว่างจำนวนนักสำรวจที่รายงานว่าราคาบ้านเพิ่มขึ้นกับลดลง ร่วงลงมาอยู่ที่ +11 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ +21 ในเดือนม.ค. และลดจากจุดสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ +25 ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ทั้งหมดในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าจะชะลอตัวเพียงเล็กน้อย
ตลาดที่อยู่อาศัยของ UK คึกคักขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจากความคาดหวังว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BOK) จะปรับลดดอกเบี้ย ประกอบกับผู้ซื้อเร่งปิดดีลก่อนมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับบ้านราคาย่อมเยาและผู้ซื้อบ้านหลังแรกจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม กระแสดังกล่าวเริ่มซาลงเมื่อใกล้ถึงกำหนดเส้นตาย
ไซมอน รูบินโซห์น หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ RICS ระบุว่า การชะลอตัวครั้งนี้เป็นผลจากการสิ้นสุดมาตรการทางภาษี รวมถึงความกังวลต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากความไม่แน่นอนทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
"แม้กระนั้น หากมองข้ามผ่านช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าไป กิจกรรมการขายมีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้น พร้อมกับราคาที่น่าจะปรับตัวสูงขึ้นด้วย" รูบินโซห์นกล่าว