สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (17 มี.ค.) ว่า ยอดค้าปลีกในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. ปรับตัวขึ้น 4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนธ.ค. 2567 ที่เพิ่มขึ้น 3.7% และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในโพลสำนักข่าวรอยเตอร์
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า การบริโภคของจีนขยายตัวรวดเร็วในช่วงต้นปี ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรซึ่งสร้างแรงกดดันต่อบรรดาผู้ส่งออกของจีน
ขณะเดียวกัน การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. ปรับตัวขึ้น 5.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าชะลอตัวลงจากเดือนธ.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 6.2% แต่ก็ยังขยายตัวรวดเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.3%
ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. ปรับตัวขึ้น 4.1% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% และเพิ่มขึ้นอย่างมากจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ปรับตัวขึ้น 3.2%
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากหน่วยงานกำหนดนโยบายของจีนเปิดเผยแผนการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยเน้นย้ำถึงคำมั่นสัญญาในการเพิ่มรายได้ของประชาชนและการใช้จ่ายในภาคครัวเรือน
นอกจากนี้ แผนการดังกล่าวซึ่งมีการประกาศเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ยังเน้นย้ำถึงเป้าหมายของจีนในการสร้างเสถียรภาพของตลาดหุ้น จัดตั้งโครงการอุดหนุนการเลี้ยงดูบุตร และกระตุ้นการท่องเที่ยว