อาร์เจนตินาส่งสัญญาณฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีฆาบิเอร์ มิเลย์ โดยในไตรมาสที่ 4/2567 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัว 1.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.3% และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน GDP ขยายตัว 2.1% สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 1.7% ผลงานนี้อาจเป็นปัจจัยบวกต่อคะแนนนิยมในการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมีขึ้นในปีนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงไตรมาส 3/2567 เศรษฐกิจอาร์เจนตินาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งถึง 4.3% หลังจากที่หดตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส นอกจากนี้ยังมีสัญญาณบวกอื่น ๆ เช่น ค่าจ้างแรงงานที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อนับตั้งแต่เดือนเม.ย. การจ้างงานที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว และอัตราความยากจนที่ลดลง หลังจากที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงที่มิเลย์เข้ารับตำแหน่ง
ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรอาร์เจนตินามีมติเห็นชอบร่างกฤษฎีกาของรัฐบาลในวันพุธที่ผ่านมา (19 มี.ค.) เพื่อเปิดทางการเจรจากู้ยืมเงินกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับโครงสร้างทางการเงินของประเทศ การลงมติดังกล่าวมีสมาชิกสภาเห็นชอบ 129 เสียง ไม่เห็นชอบ 108 เสียง และงดออกเสียง 6 เสียง
ทั้งนี้ ข้อเสนอของปธน.มิเลย์ ที่ผ่านความเห็นชอบ มุ่งเน้นการจัดทำโครงการความร่วมมือใหม่กับ IMF เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทุนสำรองของธนาคารกลาง พร้อมทั้งผ่อนปรนมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Capital Controls) ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในประเทศมาอย่างยาวนาน
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ที่ร่วมการสำรวจโดยธนาคารกลางอาร์เจนตินา คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 4.8% ในปี 2568