ผลสำรวจที่เผยแพร่วันนี้ (24 มี.ค.) พบว่า กิจกรรมทางธุรกิจในกลุ่มประเทศยูโรโซนเดือนมี.ค.เติบโตแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 7 เดือน สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซนจาก HCOB ที่จัดทำโดย S&P Global ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 50.4 จาก 50.2 ในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ภาคการผลิตมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นของยูโรโซนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 48.7 ในเดือนมี.ค. จากเดิม 47.6 ในเดือนก.พ. ขณะที่ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวถึง 50.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565
อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซนกลับชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 50.4 ในเดือนมี.ค. จากเดิม 50.6 ในเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 51.0
ความเชื่อมั่นในตลาดเพิ่มสูงขึ้น หลังมีสัญญาณว่าจะมีการเพิ่มงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานและกลาโหม โดยเฉพาะในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัว
ด้านต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าตาม โดยอัตราเงินเฟ้อทั้งปัจจัยการผลิตและผลผลิตแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน แต่ในทางตรงกันข้าม ภาคบริการกลับมีแนวโน้มการปรับขึ้นราคาที่ชะลอตัวลง
ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจก็ปรับตัวดีขึ้น พร้อมกับการจ้างงานที่เริ่มฟื้นตัว สะท้อนจากดัชนีการจ้างงานรวมที่ปรับขึ้นเป็น 50.1 จาก 49.2