คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของสิงคโปร์ (EDB) เปิดเผยในวันนี้ (26 มี.ค.) ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์หดตัวลง 1.3% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวถึง 7% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการร่วงลงของผลผลิตภาคชีวการแพทย์
เมื่อเทียบเป็นรายเดือนและปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 7.5% ในเดือนก.พ. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.1%
ผลผลิตภาคชีวการแพทย์ร่วงลง 14.3% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากอุปสงค์อ่อนแอลง โดยเฉพาะผลผลิตยาที่ร่วงลงถึง 30% ส่วนผลผลิตภาคอิเล็กทรอนิกส์ก็ปรับตัวลดลง 6.4% เมื่อเทียบรายปี โดยได้รับผลกระทบจากกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่หดตัว 9.5%
นักเศรษฐศาสตร์จากเมย์แบงก์กล่าวว่า โมเมนตัมการฟื้นตัวของภาคการผลิตสิงคโปร์แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากผู้บริโภคและภาคธุรกิจมีความระมัดระวังมากขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่สหรัฐฯ จะบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.นี้ ถึงแม้ว่าสิงคโปร์ไม่ได้อยู่ใน 15 ประเทศกลุ่มเสี่ยง แต่ก็อาจได้รับผลกระทบหากสหรัฐฯ ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ในอัตรา 25%