สมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ายานยนต์ (SMMT) ของสหราชอาณาจักร (UK) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (27 มี.ค.) ว่า ยอดการผลิตรถยนต์ใน UK ในเดือนก.พ. ลดลงเกือบ 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลิตได้ทั้งหมด 82,178 คัน
การลดลงนี้รวมถึงกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่, ปลั๊กอินไฮบริด และไฮบริด ที่ยอดผลิตลดลง 5.6% ด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นปัญหาที่อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเผชิญ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน
ข้อมูลยังชี้ว่า นับเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกันแล้วที่ยอดผลิตรถยนต์ใน UK ลดลง ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต่างก็กำลังเจอกับปัญหาทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น ความต้องการซื้อที่ลดลง การแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะจากคู่แข่งในจีน รวมถึงกฎระเบียบด้านการปล่อยคาร์บอนที่เข้มงวดขึ้น
สำหรับตลาดในประเทศนั้น ยอดผลิตลดลงอย่างหนักถึงประมาณ 33% เทียบกับปีก่อน เหลือเพียง 13,780 คัน สาเหตุหลักมาจากผู้บริโภคยังคงชะลอการซื้อของชิ้นใหญ่อย่างรถยนต์ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและปัญหาเศรษฐกิจโดยรวม
ทั้งนี้ การส่งออกยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตรถยนต์ใน UK โดยรถยนต์กว่า 8 ใน 10 คันที่ผลิตในเดือนก.พ. ถูกส่งออกไปขายในต่างประเทศ แต่ก็ยังมีความกังวลว่า ในอนาคต สหรัฐฯ อาจเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จาก UK เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นผู้นำเข้ารถยนต์ UK รายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองรองจากสหภาพยุโรป (EU) โดยมีสัดส่วนเกือบ 20%
ไมค์ ฮอว์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SMMT เน้นย้ำว่า ภาครัฐจำเป็นต้องมีนโยบายเข้ามาสนับสนุน โดยมองว่าการปรับปรุงงบประมาณครั้งล่าสุดของรัฐบาลอังกฤษไม่ได้ช่วยลดภาระให้กับอุตสาหกรรมหรือผู้บริโภคเลย
ฮอว์สระบุในแถลงการณ์ว่า หากไม่มีการผ่อนคลายกฎระเบียบที่สำคัญ ๆ การผลิตรถยนต์ใน UK รวมถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไร้มลพิษ ก็จะยังคงมีความเสี่ยง