สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับตัวขึ้นแตะระดับ 50.5 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 50.2 ในเดือนก.พ. โดยดัชนี PMI เดือนมี.ค.ขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 1 ปี และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่จีนมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ส่วนดัชนี PMI นอกภาคการผลิต ซึ่งรวมถึงภาคบริการและภาคก่อสร้างนั้น ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 50.8 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 50.4 ในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ ดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว
ด้านไฉซิน/เอสแอนด์พี โกลบอล มีกำหนดเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค.ของจีนในวันพรุ่งนี้ (1 เม.ย.) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี PMI จะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 51.1 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 50.8 ในเดือนก.พ.
รัฐบาลจีนให้คำมั่นว่าจะเร่งใช้นโยบายกระตุ้นด้านการเงินและการคลัง เพื่อให้จีนบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ประมาณ 5% ในปีนี้ และรับมือกับผลกระทบจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ หลังจากที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 20% นอกจากนี้ ทรัมป์เตรียมประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ในวันพุธที่ 2 เม.ย. ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีนด้วยเช่นกัน