ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ (1 เม.ย.) ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (ทังกัน) ปรับตัวลงสู่ระดับ 12 ในไตรมาส 1/2568 จากระดับ 14 ในไตรมาส 4/2567 โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
ดัชนีทังกันซึ่งเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่นของบริษัทต่าง ๆ ในภาคการผลิต เช่น บริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์และบริษัทเทคโนโลยีนั้น ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบสี่ไตรมาส ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ไว้
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทนอกภาคการผลิตซึ่งรวมถึงภาคบริการนั้น ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 35 ในไตรมาส 1/2568 จากระดับ 33 ในไตรมาส 4/2567 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบสองไตรมาส
ผลสำรวจของ BOJ ยังระบุด้วยว่า บริษัทต่าง ๆ ของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 147.06 เยนต่อดอลลาร์ในปีงบการเงิน 2568 ซึ่งเริ่มต้นจากเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับระดับ 147.94 เยนต่อดอลลาร์ในปีงบการเงินที่เพิ่งสิ้นสุดลง
ทั้งนี้ ข้อมูลทังกันที่มีการเปิดเผยล่าสุดนี้เป็นหนึ่งในข้อมูลที่ BOJ จะใช้ประกอบการพิจารณาในการประชุมนโยบายการเงินระยะเวลา 2 วันซึ่งจะเริ่มในวันที่ 30 เม.ย. โดยที่ประชุมจะมีการหารือกันว่าจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมหรือไม่